วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไทยศรีประกันภัย ลั่นรุกขยายตลาดประกันภัยบ้าน

ไทยศรีประกันภัยเล็งรุกตลาดประกันภัยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ปรับผลิตภัณฑ์ 2 รูปแบบ SWEET HOME คุ้มครองอัคคีภัยเบี้ยประหยัด 600 บาท และ HOME Care ประกันภัยแบบยืดหยุ่น ตั้งเป้าเพิ่มเบี้ยจากการรับประกันอัคคีภัย 10% จากเบี้ยปีก่อน 408 ล้านบาท เน้นขายผ่านช่องทางตัวแทน 2,000 คน และแบงก์แอสชัวรันซ์ จับมือพันธมิตรธอส.เพิ่มจากเดิมร่วมกับ LH BANK อยู่แล้ว เจาะลูกค้าต่างชาติและลูกค้าตจว.ที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่ม

นายนที พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด กล่าวว่า ในเร็วๆนี้บริษัทมีแผนขยายตลาดใหม่ทางด้านรับประกันภัยนอนมอเตอร์ เน้นการรับประกันภัยที่อยู่อาศัย โดยอยู่ระหว่างปรับผลิตภัณฑ์ให้มีรายละเอียดที่เข้าใจง่ายและเพิ่มเติมความคุ้มครอง แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ Sweet Home เบี้ยประกันไม่แพงและมีความคุ้มครองประกันอัคคีภัยบ้าน แบบประหยัด 600 บาท ส่วนอีกรูปแบบคือ Home Care เบี้ยประกันภัยแบบยืดหยุ่นเพิ่มความคุ้มครองได้ตามความต้องการ เช่น การโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้าน ฯลฯ

ช่วงแรกจะขยายตลาดผ่านช่องทางตัวแทนและนายหน้า ซึ่งเป็นช่องทางหลัก เจาะลูกค้าเดิมที่ทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทอยู่แล้ว โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 300,000 กว่ากรมธรรม์ โดยเฉพาะลูกค้าที่มีศักยภาพ เช่น ชาวต่างชาติ หรือลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ไม่มีภาระผ่อนบ้านแล้ว หรือผ่อนบ้านได้ระยะหนึ่งแต่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม

นอกจากนี้ เตรียมขยายช่องทางขายผ่านแบงก์แอสชัวรันซ์ร่วมกับพันธมิตรใหม่ โดยอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จากปัจจุบันที่ร่วมมือกับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย ( LH BANK ) เพียงรายเดียวในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

บริษัทต้องการกลับมาสร้างตลาดใหม่อย่างจริงจัง ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยอัคคีภัยบ้านสิ้นปีเพิ่ม 10% จากสิ้นปีก่อนเบี้ยประกันอยู่ที่ 408 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ฝึกตัวแทนที่มีอยู่ 2,000 คนให้มั่นใจในการขายสินค้าประเภทนี้เพิ่มขึ้น เพราะยังเป็นอุปสรรคที่ทำให้ตลาดนี้ไม่เติบโตในช่วงที่ผ่านมา นายนทีกล่าว

นายนที ยังได้กล่าวถึง ทิศทางธุรกิจของบริษัทในปีนี้ คาดว่าครึ่งหลังของปี

จะปรับเป้าเบี้ยรับเพิ่มอีก 5-10% เนื่องจากปัจจุบันมีความแข็งแกร่งด้านเงินกองทุนและ

มีกำไรจากการดำเนินงาน ติดอันดับ 1 ใน 10 ของธุรกิจประกันภัย โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำไรไม่ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งมีกำไร 170 ล้านบาท ขณะที่ 4 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 50.6 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน 41 เดือนแรก บริษัทมีเบี้ยรับโดยตรง 653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.87% จาก 589 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมีฐานลูกค้าประกันภัยรถยนต์และประกันภัยกลุ่มโรงงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นผลจากนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายและคัดเฉพาะงานคุณภาพ

ปัจจุบัน สัดส่วนเบี้ยผ่านช่องทางตัวแทนอยู่ที่ 80% อีก 20% เป็นไดเร็กมาร์เก็ตติ้ง ที่เป็นงานโครงการ แบ่งเป็นการประกันมอเตอร์ 65% ที่เหลือเป็นประกันอัคคีภัยบ้านที่อยู่อาศัย 20% เบ็ดเตล็ด 15% มารีน 5%

จากนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นปรับปรุงบริการให้ประสิทธิภาพที่ดี เมื่อต้นปีบริษัทได้จ้างบริษัทวิจัยมิลลิแมน (Milliman) จากประเทศฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความชำนาญด้านการวิเคราะห์ การตั้งสำรองทางธุรกิจตามมาตรฐานสากล ซึ่งผลการประเมินเงินสำรองส่วนเกินทุกตัวครั้งนี้ เป็นที่น่าพอใจ สูงกว่าเกณฑ์ RBC ใหม่ที่คปภ. กำหนด ถือว่าเป็นโมเดลเริ่มต้นที่สามารถใช้ได้ทันทีในปี 2554 โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น